วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

เรียนปริญญาโท-ปริญญาเอก อย่างไร…ให้จบ

          พอดีไปค้นในเว็บไซต์ เจอบทความที่ถอดมาจากหนังสืออีกทีหนึ่งของเว็บไซต์ http://www.snc.lib.su.ac.th/ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกที่กำลังศึกษาอยู่ เอาละลองมาอ่านที่เขาถอดบทความมาแล้ว เชิญครับ

         ได้พบหนังสือเล่มหนึ่งเห็นชื่อแล้วน่าสนใจ  ด้วยในสมัยเก่าก่อนกว่าตัว เองจะตัดสินใจเรียน ป.โท ได้ ก็คิดกลับไปกลับมาหลายรอบ ประกอบกับฟังคนร่ำลือว่ากว่าจะเรียนจบ ป.โท ได้ ต่างมีความทรงจำอันแสนทรมาน คิดไปคิดมาสุดท้ายก็ได้เรียนด้วยเรื่องเหลือเชื่อตั้งแต่ก่อนจะเข้าเรียน และหลังเรียนจบ
         ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าการศึกษาระดับ ป.ตรี นั้นคงไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่เส้นทางอาชีพที่ใฝ่ ฝัน ดังนั้นการศึกษาขั้นสูงในระดับปริญญาโท และปริญญาเอกจึงเป็นคำตอบและเป็นใบเบิกทางไปสู่หน้าที่การทำงานที่สูงกว่า  อย่างไรก็ตามหลายๆ คนก็คงรู้สึกว่าการศึกษาในระดับสูงนี้ยากและน่ากลัว เรียนแล้วจะจบหรือไม่ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายซึ่งค่อนข้างสูง
หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของผู้เขียนที่ต้องการให้คำแนะนำที่ เหมาะสมแก่นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่และผู้สนใจในการศึกษาต่อ รวมทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา  เนื้อหาของหนังสือบอกถึงข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนจะตัดสินใจเรียนปริญญาโท และปริญญาเอก รวมถึงคนที่ตัดสินใจเรียนแล้วจะได้มีข้อมูลที่ช่วยให้การเรียนง่ายและมีแบบ แผนมากขึ้น ไม่ได้เน้นที่รายละเอียดของการทำวิจัยและการเขียนวิทยานิพนธ์

เนื้อหาหนังสือเล่มนี้ แบ่งออกเป็น 10 บท
บทที่ 1 การเตรียมตัวก่อนศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก
         กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องการศึกษา  อันดับแรกก่อนจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก ควรมีการเตรียมตัวหาข้อมูลก่อน ก่อนอื่นต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้เสียก่อนว่า “เราจะเรียนปริญญาโทและเอกไปเพื่ออะไร” เพราะนั่นคือจุดมุ่งหมายในชีวิตของท่านและจะมีผลต่อพฤติกรรมการเรียนของท่าน ด้วย  ผู้เขียนได้แบ่งเหตุผลที่ต้องการศึกษาต่อระดับนี้ไว้ 7 ประเภท กล่าวคือ 1. เรียนเพื่อเติมความรู้  2. เรียนเพื่อเปลี่ยนอาชีพ 3. เรียนเพื่อยกระดับ เป็นเหตุผลส่วนใหญ่ของนักศึกษาในปัจจุบันที่สังคมส่วนหนึ่งมองว่าวุฒิการ ศึกษาสำคัญกว่าประสบการณ์  4. เรียนเพื่อเงิน เพราะต้องการมีรายได้ที่ดีขึ้นจากวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น หรือการเรียนทำให้ได้รับทุนการศึกษา ทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้พอสมควร  5. เรียนเพื่อฆ่าเวลา เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรจึงมาเรียนต่อและหวังว่าตนเองจะรู้ได้ว่าจะทำอะไรต่อ ไปในระหว่างที่เรียนหรือเมื่อเรียนจบ 6. เรียนตามเพื่อน  7. เรียนเพราะถูกบังคับ อาจโดนบังคับจากผู้ปกครองหรือเงื่อนไขของทุนการศึกษาที่ได้รับ
ไม่ว่าเหตุผลส่วนตัวในการตัดสินใจเรียนระดับปริญญาโทและเอกของแต่ละคนจะ เป็นอย่างไร หากตัดสินใจเรียนแล้วก็ต้องหาข้อมูลว่าจะเรียนอะไร และเรียนที่ไหนดี ปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาขั้นสูงในประเทศไทยมีจำนวนมากมาย ทั้งหลักสูตรปกติ หลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรแบบเต็มเวลาที่นักศึกษาส่วนใหญ่อยู่กับการเรียนไม่สามารถทำงานประจำ เช่นเดิมได้ และหลักสูตร part time ที่มีการเรียนการสอนในตอนเย็นหลังเวลาทำงานปกติและวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำให้เหมาะกับผู้อยากเรียนต่อแต่ไม่อยากลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่
         ก่อนที่จะสมัครเรียน ต้องตอบคำถามตัวเองอีกข้อว่าต้องการศึกษาต่อในสาขาวิชาใด จะเป็นสาขาเดิมที่เคยเรียนมาแล้วในระดับปริญญาตรี หรือจะเปลี่ยนใจไปเรียนสาขาวิชาใหม่ และหากไปเรียนสาขาวิชาใหม่ต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง และเพราะอะไรถึงต้องเปลี่ยนไปเรียนในสาขาวิชาอื่นด้วย ผู้ที่สนใจจะเรียนต่อจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกเรียน เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่ออนาคตของผู้เรียนอย่างมาก

บทที่ 2 การศึกษาขั้นสูงในระดับปริญญาโทและเอก
         หรือที่เรียกว่า “บัณฑิตศึกษา” จุดประสงค์ของการศึกษาในระดับปริญญาตรี โท และเอก นั้นแตกต่างกันมาก สรุปได้ว่า 1. “เพื่อรู้” ในการศึกษาระดับปริญญาตรี 2. “เพื่อนำไปใช้จริง” ในการศึกษาระดับปริญญาโท 3. “เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ” ในการศึกษาระดับปริญญาเอก
การศึกษาในระดับปริญญาเอกจะแตกต่างกับปริญญาโทอย่างมาก ทั้งในเรื่องของระยะเวลาที่ใช้ศึกษา รวมทั้งขนาดและคุณภาพของงานวิจัย อย่างต่ำตั้งแต่ 3 ปี ถึง 8 ปี ขึ้นอยู่กับระเบียบของสถาบันการศึกษานั้นๆ
         ประเด็นถัดมาที่ผู้เรียนต้องพิจารณาก็คือสถาบันการศึกษานั้นมีหลักสูตร ที่ต้องการจะเรียนหรือไม่ ถ้ามีเป็นลักษณะใด เช่น ทำวิจัยอย่างเดียว หรือมีเรียนรายวิชาและทำวิจัยด้วย มีกำหนดการเรียนกี่ปีและความยากง่ายที่จะเข้าศึกษาต่อที่สถาบันนี้เป็นอย่าง ไร
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียนต่อในสาขาวิชาใด ก็มาถึงคำถามที่ว่า “แล้วจะไปเรียนต่อที่ไหน” สถานที่เรียนต่อก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการศึกษาด้วยเช่นกัน จะเรียนต่อที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ในประเทศหรือต่างประเทศ  ถ้าเป็นต่างประเทศจะเป็นประเทศอะไร ประชาชนในประเทศนั้นสื่อสารกันด้วยภาษาอะไร อากาศเป็นอย่างไร ฯลฯ

บทที่ 3 กระบวนการทั่วไปในการศึกษาระดับปริญญาเอก
         กล่าวถึงหัวข้อ ความจริงในการศึกษาระดับปริญญาเอก  ความ รู้ความสามารถภายหลังจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังไว้กับนักศึกษาจะสูงมาก เช่น สามารถใช้ภาษาทางวิชาการได้ถูกต้องทั้งการพูดและการเขียน มีความสามารถในการเขียนที่ถูกต้องตามโครงสร้างของภาษาเขียน สามารถเขียนและอธิบายได้อย่างมีเหตุมีผลตามหลักของงานเขียนทางวิชาการ ฯลฯ

บทที่ 4 การทำวิจัย
         ว่าด้วยหัวข้องานวิจัย หลักเกณฑ์ในการเลือกหัวข้องานวิจัย การวางแผน การจัดการเวลา การปฏิบัติ

บทที่ 5 การเขียนวิทยานิพนธ์
         รูปแบบของวิทยานิพนธ์ โครงสร้างของวิทยานิพนธ์ เทคนิคการเขียนวิทยานิพนธ์

บทที่ 6 การสอบวิทยานิพนธ์
         ว่าด้วย หลักเกณฑ์ในการสอบวิทยานิพนธ์ การเลือกกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ การส่งเล่มวิทยานิพนธ์ การเตรียมตัวก่อนสอบวิทยานิพนธ์ ผลการสอบวิทยานิพนธ์

บทที่ 7 ทำไมเรียนไม่จบ
        สาเหตุที่เรียนไม่จบ คำแนะนำทั่วไปสำหรับนักศึกษาที่ทำวิจัย

บทที่ 8 ประสบการณ์ความรู้สึกในการศึกษาขั้นสูง

บทที่ 9 บทบาทของอาจารย์ที่ปรึกษา
         จำนวนอาจารย์ที่ปรึกษา หน้าที่ สิ่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่นักศึกษาต้องการจากอาจารย์ที่ปรึกษา การเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา

บทที่ 10 การปรับตัวของนักศึกษา กล่าวถึง ชีวิตในหมาวิทยาลัย การศึกษาด้วยตนเอง การจัดการเวลา การสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เสกศักดิ์ อัสวะวิสิทธิ์ชัย.  ทำอย่างไรถึงจะเรียนจบปริญญาโทและเอก.  กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553.  233 หน้า. (LB 2395 ส72)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น