พอดีไปค้นในเว็บไซต์ เจอบทความที่ถอดมาจากหนังสืออีกทีหนึ่งของเว็บไซต์ http://www.snc.lib.su.ac.th/ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกที่กำลังศึกษาอยู่ เอาละลองมาอ่านที่เขาถอดบทความมาแล้ว เชิญครับ
ได้พบหนังสือเล่มหนึ่งเห็นชื่อแล้วน่าสนใจ ด้วยในสมัยเก่าก่อนกว่าตัว
เองจะตัดสินใจเรียน ป.โท ได้ ก็คิดกลับไปกลับมาหลายรอบ
ประกอบกับฟังคนร่ำลือว่ากว่าจะเรียนจบ ป.โท ได้ ต่างมีความทรงจำอันแสนทรมาน
คิดไปคิดมาสุดท้ายก็ได้เรียนด้วยเรื่องเหลือเชื่อตั้งแต่ก่อนจะเข้าเรียน
และหลังเรียนจบ
ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันว่าการศึกษาระดับ ป.ตรี
นั้นคงไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่เส้นทางอาชีพที่ใฝ่
ฝัน ดังนั้นการศึกษาขั้นสูงในระดับปริญญาโท
และปริญญาเอกจึงเป็นคำตอบและเป็นใบเบิกทางไปสู่หน้าที่การทำงานที่สูงกว่า
อย่างไรก็ตามหลายๆ คนก็คงรู้สึกว่าการศึกษาในระดับสูงนี้ยากและน่ากลัว
เรียนแล้วจะจบหรือไม่ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายซึ่งค่อนข้างสูง
หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของผู้เขียนที่ต้องการให้คำแนะนำที่
เหมาะสมแก่นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่และผู้สนใจในการศึกษาต่อ
รวมทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา
เนื้อหาของหนังสือบอกถึงข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนจะตัดสินใจเรียนปริญญาโท
และปริญญาเอก
รวมถึงคนที่ตัดสินใจเรียนแล้วจะได้มีข้อมูลที่ช่วยให้การเรียนง่ายและมีแบบ
แผนมากขึ้น ไม่ได้เน้นที่รายละเอียดของการทำวิจัยและการเขียนวิทยานิพนธ์
เนื้อหาหนังสือเล่มนี้ แบ่งออกเป็น 10 บท
บทที่ 1 การเตรียมตัวก่อนศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก
กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องการศึกษา
อันดับแรกก่อนจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก
ควรมีการเตรียมตัวหาข้อมูลก่อน
ก่อนอื่นต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้เสียก่อนว่า
“เราจะเรียนปริญญาโทและเอกไปเพื่ออะไร”
เพราะนั่นคือจุดมุ่งหมายในชีวิตของท่านและจะมีผลต่อพฤติกรรมการเรียนของท่าน
ด้วย ผู้เขียนได้แบ่งเหตุผลที่ต้องการศึกษาต่อระดับนี้ไว้ 7 ประเภท
กล่าวคือ 1. เรียนเพื่อเติมความรู้ 2. เรียนเพื่อเปลี่ยนอาชีพ 3.
เรียนเพื่อยกระดับ
เป็นเหตุผลส่วนใหญ่ของนักศึกษาในปัจจุบันที่สังคมส่วนหนึ่งมองว่าวุฒิการ
ศึกษาสำคัญกว่าประสบการณ์ 4. เรียนเพื่อเงิน
เพราะต้องการมีรายได้ที่ดีขึ้นจากวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น
หรือการเรียนทำให้ได้รับทุนการศึกษา ทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้พอสมควร
5. เรียนเพื่อฆ่าเวลา
เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรจึงมาเรียนต่อและหวังว่าตนเองจะรู้ได้ว่าจะทำอะไรต่อ
ไปในระหว่างที่เรียนหรือเมื่อเรียนจบ 6. เรียนตามเพื่อน 7.
เรียนเพราะถูกบังคับ
อาจโดนบังคับจากผู้ปกครองหรือเงื่อนไขของทุนการศึกษาที่ได้รับ
ไม่ว่าเหตุผลส่วนตัวในการตัดสินใจเรียนระดับปริญญาโทและเอกของแต่ละคนจะ
เป็นอย่างไร หากตัดสินใจเรียนแล้วก็ต้องหาข้อมูลว่าจะเรียนอะไร
และเรียนที่ไหนดี ปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาขั้นสูงในประเทศไทยมีจำนวนมากมาย
ทั้งหลักสูตรปกติ หลักสูตรนานาชาติ
หลักสูตรแบบเต็มเวลาที่นักศึกษาส่วนใหญ่อยู่กับการเรียนไม่สามารถทำงานประจำ
เช่นเดิมได้ และหลักสูตร part time
ที่มีการเรียนการสอนในตอนเย็นหลังเวลาทำงานปกติและวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
ทำให้เหมาะกับผู้อยากเรียนต่อแต่ไม่อยากลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่
ก่อนที่จะสมัครเรียน
ต้องตอบคำถามตัวเองอีกข้อว่าต้องการศึกษาต่อในสาขาวิชาใด
จะเป็นสาขาเดิมที่เคยเรียนมาแล้วในระดับปริญญาตรี
หรือจะเปลี่ยนใจไปเรียนสาขาวิชาใหม่
และหากไปเรียนสาขาวิชาใหม่ต้องมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้าง
และเพราะอะไรถึงต้องเปลี่ยนไปเรียนในสาขาวิชาอื่นด้วย
ผู้ที่สนใจจะเรียนต่อจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกเรียน
เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่ออนาคตของผู้เรียนอย่างมาก
บทที่ 2 การศึกษาขั้นสูงในระดับปริญญาโทและเอก
หรือที่เรียกว่า “บัณฑิตศึกษา” จุดประสงค์ของการศึกษาในระดับปริญญาตรี โท และเอก นั้นแตกต่างกันมาก สรุปได้ว่า 1. “เพื่อรู้” ในการศึกษาระดับปริญญาตรี 2. “เพื่อนำไปใช้จริง” ในการศึกษาระดับปริญญาโท 3. “เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ” ในการศึกษาระดับปริญญาเอก
การศึกษาในระดับปริญญาเอกจะแตกต่างกับปริญญาโทอย่างมาก
ทั้งในเรื่องของระยะเวลาที่ใช้ศึกษา รวมทั้งขนาดและคุณภาพของงานวิจัย
อย่างต่ำตั้งแต่ 3 ปี ถึง 8 ปี ขึ้นอยู่กับระเบียบของสถาบันการศึกษานั้นๆ
ประเด็นถัดมาที่ผู้เรียนต้องพิจารณาก็คือสถาบันการศึกษานั้นมีหลักสูตร
ที่ต้องการจะเรียนหรือไม่ ถ้ามีเป็นลักษณะใด เช่น ทำวิจัยอย่างเดียว
หรือมีเรียนรายวิชาและทำวิจัยด้วย
มีกำหนดการเรียนกี่ปีและความยากง่ายที่จะเข้าศึกษาต่อที่สถาบันนี้เป็นอย่าง
ไร
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียนต่อในสาขาวิชาใด ก็มาถึงคำถามที่ว่า “แล้วจะไปเรียนต่อที่ไหน”
สถานที่เรียนต่อก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการศึกษาด้วยเช่นกัน
จะเรียนต่อที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ในประเทศหรือต่างประเทศ
ถ้าเป็นต่างประเทศจะเป็นประเทศอะไร
ประชาชนในประเทศนั้นสื่อสารกันด้วยภาษาอะไร อากาศเป็นอย่างไร ฯลฯ
บทที่ 3 กระบวนการทั่วไปในการศึกษาระดับปริญญาเอก
กล่าวถึงหัวข้อ ความจริงในการศึกษาระดับปริญญาเอก ความ
รู้ความสามารถภายหลังจบการศึกษาระดับปริญญาเอก
ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังไว้กับนักศึกษาจะสูงมาก เช่น
สามารถใช้ภาษาทางวิชาการได้ถูกต้องทั้งการพูดและการเขียน
มีความสามารถในการเขียนที่ถูกต้องตามโครงสร้างของภาษาเขียน
สามารถเขียนและอธิบายได้อย่างมีเหตุมีผลตามหลักของงานเขียนทางวิชาการ ฯลฯ
บทที่ 4 การทำวิจัย
ว่าด้วยหัวข้องานวิจัย หลักเกณฑ์ในการเลือกหัวข้องานวิจัย การวางแผน การจัดการเวลา การปฏิบัติ
บทที่ 5 การเขียนวิทยานิพนธ์
รูปแบบของวิทยานิพนธ์ โครงสร้างของวิทยานิพนธ์ เทคนิคการเขียนวิทยานิพนธ์
บทที่ 6 การสอบวิทยานิพนธ์
ว่าด้วย หลักเกณฑ์ในการสอบวิทยานิพนธ์ การเลือกกรรมการสอบวิทยานิพนธ์
การส่งเล่มวิทยานิพนธ์ การเตรียมตัวก่อนสอบวิทยานิพนธ์ ผลการสอบวิทยานิพนธ์
บทที่ 7 ทำไมเรียนไม่จบ
สาเหตุที่เรียนไม่จบ คำแนะนำทั่วไปสำหรับนักศึกษาที่ทำวิจัย
บทที่ 8 ประสบการณ์ความรู้สึกในการศึกษาขั้นสูง
บทที่ 9 บทบาทของอาจารย์ที่ปรึกษา
จำนวนอาจารย์ที่ปรึกษา หน้าที่ สิ่งอาจารย์ที่ปรึกษาที่นักศึกษาต้องการจากอาจารย์ที่ปรึกษา การเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา
บทที่ 10 การปรับตัวของนักศึกษา กล่าวถึง ชีวิตในหมาวิทยาลัย การศึกษาด้วยตนเอง การจัดการเวลา การสื่อสารกับอาจารย์ที่ปรึกษา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เสกศักดิ์ อัสวะวิสิทธิ์ชัย. ทำอย่างไรถึงจะเรียนจบปริญญาโทและเอก.
กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553. 233 หน้า. (LB
2395 ส72)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น